1330 Views |
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน กลับมาพบกันอีกครั้ง กับ “เด็กหัดโค้ช” วันนี้เราจะมา Talk กันในเรื่องที่เกือบจะเป็น Classic Case ขยายความกันสักนิด ก็ประมาณ… ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน จะคลาสสิคขนาดไหน มาดูกันเลยยยยยยย!!!
ส่วนตัวผมเชื่อว่าหลัง จบบทสนทนาแรกของเพื่อนทั้งสี่คน คงจะมีเรื่อง Talk กันต่ออีกพักใหญ่แต่สำหรับตัวผมกฎพื้นฐานนั้นง่ายมากรู้และกระจาย เราลองมองดูบริษัทยักษ์ใหญ่ในบ้านเรากันบ้าง ผมยกตัวอย่างเช่น สิงห์, ช้าง, CP บริษัทเหล่านี้ประสบความสำเร็จในธุรกิจจนกลายเป็นบริษัทใหญ่ ผลกำไรนั้นแน่นอนต้องมากมายมหาศาล เมื่อกำไร เป็นปกติธรรมดาที่ต้องต่อยอดธุรกิจหรือ ต่อยอดกำไรที่ได้มา การลงทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้
มองกันแบบผิวเผินไม่ต้องลงลึก เด็กน้อยอย่างกระผมก็สังเกตุได้ นี่ไงครับกระจายที่ว่า กระจายความเสี่ยงแต่ก่อนจะลงทุน ก่อนจะกระจาย เราก็ควรศึกษาให้รู้กันให้ดีก่อน เพราะความไม่รู้คือความเสี่ยงที่อันตรายใหญ่หลวง ทีนี้เรามาเข้าเรื่องในตำนานของเรากันดีกว่า หุ้นปัจจุบันผันผวนมากเหลือเกิน เทพหลายองค์ใบ้มาว่า ลงแน่ ๆ เม่าปีกเหล็กและสถาบัน ชนชาวไทยก็ดันจน เขียวร้อง“ว้าว” กันออกมาดังๆ ถึงกระนั้นผมยังคงเชื่อมหาเทพที่ชื่อว่า “สภาพเศรษฐกิจโลก” ผมจึงขอห่างกันสักพักกับ “ Equity” จะดีกว่า
แล้ว Gold หละ ? เงินตราที่แท้ทรูเชียวนะ (T_T) ป๋มม่ายมีตังค์ซื้อค้าบ สงสัยกันหละซิค้าบ “ อะไรกันทองยังไม่มีเงินซื้อ แล้วมาพูดทำไม ” ผมมีสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้เงิน ในโลกของการลงทุนครับ สิ่งนั่นก็คือ “ CREDIT ” นั่นเอง ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นผมจึงใช้ให้เป็นประโยชน์ ในโลกที่งบน้อย ๆของผมจะสามารถต่อยอดทำกำไรได้ ผมจึงลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ครับ การซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นการลงทุนรูปแบบเดียวที่ไม่ต้องใช้เงินสดในการลงทุนทั้งหมด เราสามารถใช้เครดิตของเราในการกู้ยืมเงินคนอื่น ซึ่งก็คือ ธนาคาร มาลงทุน บางท่านอาจจะซื้อเพื่ออยู่อาศัย บางท่านซื้อเก็บเป็นทรัพย์สินและอาจขายเพื่อทำกำไรในอนาคต บางท่านลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่า ถึงขั้นที่ว่าใช้เครดิตในการซื้อเพื่อนำมาปล่อยเช่า ดีไม่ดีอาจได้ทั้งเงินทอนมาสำรอง ได้ทั้งค่าเช่ามาผ่อนธนาคาร สุดท้ายได้ทรัพย์สินมาฟรี นี่มันช่าง Advance โดยแท้ จับเสือมือเปล่าชัดๆ และแล้วผลที่ตามมาจึงเกิดเสือนอนกินขึ้นมากมาย เมื่อภาวะล้นตลาดมาถึง สุดท้ายเกิดปรากฏการณ์ เสือนอนตายเกลื่อนเมือง ก็มาให้เห็น
ตลาดอสังหาริมทรัพย์จึงเปลี่ยนหน้าตาเพื่อการลงทุนมากขึ้น เป็น Branded Residence หรือ Investment Property นั่นก็คืออสังหาฯที่มีการบริหารจัดการเช่าในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Condotel, Hotel, Service Residence โดยแบรนด์บริหารจัดการ หรือโดยผู้พัฒนาโครงการ และเปิดขายให้กับนักลงทุน ฟังแล้วแลดูคุ้นๆหู ซื้ออสังหาฯได้โฉนด แถมมีการการันตีผลตอบแทน หรือแม้แต่รับซื้อคืนก็ยังมี อาจจะเพิ่มมูลค่าการรับซื้อคืนให้ด้วยนะ!!! แอบว้าวในใจ แต่เอ๊ะ !? มีผลตอบแทน (Yield), มีโฉนดและตัวอสังหาฯเสมือนเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (Collateral), มีมูลค่าเพิ่มในทรัพย์สิน (Capital Gain), อาจมีการรับซื้อคืน (Exit) นี่มันใกล้เคียงกับตราสารหนี้เลยนี่หว่า แตกต่างกันก็แค่สภาพคล่อง (Liquidity) และอสังหาริมทรัพย์ที่เราได้สิ่งที่จับต้องได้มาถือครอง
@$%#&?* เอาหละซิ นี่ไงทางเลือกการลงทุนในสินทรัพย์มั่นคงหรือสิ่งที่จับต้องได้ เห็นแบบนี้แล้วไม่น่าแปลกใจเลยใช่ไหมครับที่เราจะเห็นบริษัทใหญ่ๆมีการแบ่งพอร์ตการลงทุนไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ท่านผู้อ่านเมื่ออ่านแล้ว โปรดพิจารณาศึกษาการลงทุนให้ดี อย่าลืมทุกการลงทุนมีความเสี่ยง เสี่ยงมากได้มาก เสี่ยงน้อยได้น้อย ไม่เสี่ยงเลยไม่ได้อะไร หากไม่มั่นใจลองปรึกษาผู้รู้
สำหรับทางเลือกของผม ผมเลือกปรึกษา Winvestor Property เพราะเขาคือ Your Trusted Investment Property ด้านอื่นผมไม่รู้ แต่ด้านอสังหาริมทรัพย์ นี่แหละตัวจริงด้านที่ปรึกษาของผม
ก่อนจากกันในเดือนนี้ผมขอฝากแง่คิดให้กับนักลงทุนมือใหม่ป้ายแดงทั้งหลาย หรือผู้อ่านที่มีความสนใจในการลงทุนอยู่แล้วว่า “ ประกันทำให้เงินไม่สูญหายและปลอดภัย ส่วนการลงทุนนั้น ทำให้เงินเจริญเติบโต ” ไม่ว่าจะเลือกรูปแบบไหนโปรดพิจารณาศึกษากันอย่างระมัดระวัง แล้วพบกันใหม่ในเดือนหน้า สิงหาคม ขอบคุณครับ
วางแผนการลงทุนกับ Winvestor Property
_____
# เด็กหัดโค้ช